วิธีการข้ามเพศหญิงเป็นชาย (จบในโพสต์เดียว)

การข้ามเพศจากหญิงเป็นชาย มีแค่ 5 ขั้นตอนใหญ่ บางขั้นตอนจะต้องใช้เวลาทำ ห่างกัน 6 เดือน  และบางขั้นตอนก็ไม่ได้ใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียวก็เสร็จด้วย ตัวอย่างเช่น “การสร้างอวัยวะเพศชายนี่ใช้เวลาเป็นปีเลย” ค่อย ๆ อ่านไปทีละขั้นนะครับ แอดจะพยายามพิมพ์สั้น ๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุด

ขั้นตอนที่ 1. การเตรียมตัวก่อนข้ามเพศ

หลายแห่งอาจจะไม่ได้นำขั้นตอนนี้มาใส่ แต่สำหรับแอดแล้ว มันเป็น “ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด” เมื่อเทียบกับขั้นตอนอื่น ๆ ครับ เพราะมัน คือ การเตรียมตัว การตัดสินใจ และวางแผน ว่า “เราควรแปลงเพศจริงหรอ? ควรจะทำขั้นตอนไหนก่อนหลัง? ข้อดี ข้อเสีย เป็นยังไง? ต้องมีเงินเท่าไหร่?”

ดังนั้น เราจึงต้องมี 4 อย่าง ที่ต้องเตรียมก่อนข้ามเพศ คือ ความรู้, สุขภาพ, เงิน, สังคม,  ต้องเตรียมยังไงบ้าง? คลิกอ่านรายละเอียดที่นี่ครับ ใครมีครบ 4 อย่างนี้ จะไม่เสียใจทีหลัง และจะไม่ทุกข์ใจทุกข์กายครับ

ขั้นตอนที่ 2. การตัดหน้าอก

ทำไมแอดถึงเลือกการตัดหน้าอก ขึ้นมาก่อนการเทคฮอร์โมน เพราะมันเป็นคำถามที่พบบ่อย ซึ่งมีคำตอบอยู่ในนี้ครับ (คลิก) ลองอ่านดูแล้วจะตัดสินใจได้ว่า เราควรตัดหน้าอกก่อน หรือควรเทคฮอร์โมนก่อนดี?

• 🏳️‍🌈  เวลาเราเลือก รพ. หรือ เลือกหมอที่จะตัดหน้าอก ให้ดูจากรีวิวของคนที่มีหุ่น และนมใกล้เคียงกับตัวเรา ถ้าเรานมใหญ่ ไขมันเยอะ นมยาน อย่าไปดูพวกคนที่ผอม มีกล้าม นมเล็ก เพราะแผล และผลลัพธ์ จะแตกต่างกัน จะได้ไม่ต้องคาดหวังเยอะ แล้วก็ผิดหวัง แล้วเราจะตัดหน้าอกที่ไหนดี? ควรเลือกจากอะไร?

🏳️‍🌈 คลิกเพื่อดูรวมรายชื่อโรงพยาบาลตัดหน้าอกในไทย 🏳️‍🌈 

ขั้นตอนที่ 3. การใช้ฮอร์โมนบำบัด

การใช้ฮอร์โมนบำบัด หรือที่เรารู้จักกันในคำว่า “เทคฮอร์โมน” คือ การรับฮอร์โมนชายเข้ามาในร่างกายเรา เพื่อให้ร่างกายมีลักษณะเป็นผู้ชายมากขึ้น และจะต้องรับฮอร์โมนเป็นประจำไปจนถึงอายุ 60 ปี หรือจนกว่าคุณหมอจะพิจารณาให้หยุด

การรับฮอร์โมนของชายข้ามเพศมี 3 แบบ คือ แบบฉีด (นิยมมากสุด), แบบทา , และแบบกิน (ไม่แนะนำสำหรับการข้ามเพศ) ซึ่งมีอธิบายอยู่ในหน้านี้

ผลข้างเคียง: เลือดข้น เลือดหนืด (ไหลเวียนยากขึ้น) ไขมันในเลือดสูง
มีผลการวิจัยของหญิงข้ามเพศว่า การเทคฮอร์โมนมีผลกับหัวใจ และหลอดเลือดในสมอง

และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีหนวดมีกล้าม ดูอย่างผู้ชายทั่วไปสิ คนขนดกยังไม่ได้มีทั่วไป

การเทคฮอร์โมนชายจะทำให้เราสิวขึ้น รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบ มีกลิ่นตัว ผมร่วง (หัวล้าน) ประจำเดือนไม่มา เลือดข้น ไขมันในเลือดสูงขึ้น น้ำหนักขึ้น หงุดหงิด ใจร้อน โมโหง่าย (บางคนตับเป็นพิษ บางคนเป็นฝีฝักบัว)
ซึ่งแต่ละคนก็จะตอบสนองต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด

ถ้าเลิกฉีดฮอร์โมนจะเป็นยังไง?
ฮอร์โมนเหวี่ยง อาจจะมีอารมณ์แปรปรวน กล้ามเนื้อเล็กฟีบลง ขนร่วง หนวดร่วง บางคนมดลูกบวม ประจำเดือนมาผิดปกติ บางคนประจำเดือนมามากกว่าเดิม สะโพกผายขึ้น หน้าอกใหญ่ขึ้น แต่บางคนก็ไม่เป็นอะไร ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อเลิกฉีดแล้ว จะกลับมาเป็นผู้หญิงเหมือนเดิม เพราะรังไข่ยังผลิตฮอร์โมนหญิงให้อยู่

🏳️‍🌈คลิกดูรวมรายชื่อโรงพยาบาลที่รับเทคฮอร์โมนในไทย 🏳️‍🌈 

ขั้นตอนที่ 4. การตัดมดลูกรังไข่

จากคำแนะนำของคุณหมออำนาจ รพ.ยันฮี (อ้างอิงปี 2019) แนะนำไว้ว่า หลังจากรับฮอร์โมน 1 ปี ควรพิจารณาตัดมดลูกรังไข่ และไม่ควรปล่อยไว้เกิน 5 ปี

คำถาม: ถ้าไม่ได้มีแผนต่ออวัยวะเพศ ผมไม่ตัดมดลูกรังไข่ได้มั้ยครับ??

คำตอบ: ได้ครับ แต่ต้องตรวจภายในเป็นประจำทุกปีนะ

เพราะเรามีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับมดลูกรังไข่ (เช่น มะเร็ง) ได้พอ ๆ กับผู้หญิงทั่วไปเลย และบางครั้งอาจทำให้เรากลับมามีประจำเดือนอีกครั้งด้วย นอกจากนั้น บางคนที่เทคฮอร์โมนยังมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย เกิดจากสาเหตุที่รังไข่ทำงานผิดปกติจากการที่รับฮอร์โมนชายเข้าร่างกาย (แน่นอนว่าถ้าเราตัดรังไข่ทิ้งไป เราก็ไม่มีทายาททางสายเสือดแล้วนะ) ผู้หญิงที่ตัดรังไข่ก่อนวัย 45 ปี จะมีภาวะเป็นโรคกระดูกพรุน ดังนั้น หมอจะแนะนำให้เราทานแคลเซียม+Vitamin D เป็นประจำครับ

• 🏳️‍🌈 การตัดมดลูกรังไข่ ปัจจุบันอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 30,000 ปลาย ๆ ไปจนถึง 150,000 ครับ แล้วแต่โรงพยาบาล และเทคนิค
• 🏳️‍🌈 ซึ่งปัจจุบันมี 2 เทคนิค คือ การผ่าแบบกรีดหน้าท้อง และการผ่าแบบผ่านกล้อง
• 🏳️‍🌈 ข้อดีข้อเสีย
  • กรีดหน้าท้อง ราคาถูก แต่เจ็บยิ่งกว่าอะไรบนโลกนี้ และมีแผลเป็นยาวตรงท้องน้อย
  • ผ่านกล้อง ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องเย็บแผล แต่รู้สึกเหมือนท้องอืด (เพราะแก๊ส) แทบไม่เห็นแผลเป็น ข้อเสีย คือ ราคาแพง แต่ถ้างบถึง ควรเลือกครับ

🏳️‍🌈 รวมราคาตัดมดลูกรังไข่ของโรงพยาบาลในประเทศไทย 🏳️‍🌈 

ขั้นตอนที่ 5. การสร้างอวัยวะเพศชาย

แอดเคยเขียนบทความเต็ม ๆ เรียบร้อยแล้ว เชิญอ่านได้ที่นี่ (คลิก) แต่มีภาพ 18+ และชวนสยองนะ ไม่แนะนำให้เปิดในที่ทำงาน หรือบนรถโดยสารสาธารณะที่มีคนแอบดูครับ (เดี๋ยวเค้าตกใจ!)