🇹🇭 เตรียมตัวอย่างไรเมื่อไปต่างประเทศ ✈️
ขอบคุณบทความจาก ตฤณ FTM ห้องสมุด
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความหนักอกหนักใจให้กับเหล่าทรานส์ทุกหมู่เหล่าไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะทรานส์แมนอย่างเราเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระร่างกายต่างๆไปแล้ว เช่น หนวดเคราขึ้น เสียงแตกหนุ่ม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลทำให้การเดินทางเข้าและออกต่างประเทศยุ่งยากมากน้อยแค่ไหนหรือเปล่า? ดังนั้นเราจึงมีข้อควรรู้ในการเตรียมตัวให้ดังนี้
1. ควรอัพเดทรูปใน passport ของคุณให้เป็นปัจจุบันที่สุด
2. ทำ passport ใหม่ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ อย่าไปเสียดายหลายๆประเทศที่คุณเคยเยี่ยมเยือน
3. พกใบรับรองจิตแพทย์ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น ที่ระบุว่า”Gender Identity Disorder / Gender disphoria”
โดยเอกสารเหล่านี้จำเป็นที่จะต้อง Carry on เท่านั้นเพราะแน่นอนว่าคุณจะต้องใช้มันทั้งตอน Check in และตอนตอบคำถามเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง
จากประสบการณ์ของผมการผ่านตม.ของอเมริกา,จีนและญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ยุ่งยากหรือน่าอึดอัดใจอย่างที่คิดถึงแม้ว่าใน passport ของผมจะยังคงเป็น “นางสาว,Miss” หรือในช่อง Gender ของวีซ่าระบุเป็น “F” ก็ตามทีจะมีก็แค่เจ้าหน้าที่ถามว่า “นี่ใช่คุณหรอ?” เมื่อผมตอบ “ใช่” และยิ้มเพื่อสานสัมพันธไมตรีรวมถึงตอบคำถามทั่วๆไปที่ทุกคน(ทุกเพศ) ต้องเจอเสร็จก็เป็นอันจบ ซึ่งในบางครั้งใบจิตแพทย์ที่รับรองว่าเราเป็น Transgender มันก็ไม่จำเป็นต้องหยิบมาใช้เลยด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้หมายถึงให้คุณชะล่าใจไม่พกสิ่งสำคัญสิ่งนี้นะครับ ผมยังคงยืนยันว่าคุณต้องถือติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเสมอ
เผื่อคุณโชคดีไปเจอเจ้าหน้าที่คุยกันถูกคอถึงขั้นอยากรู้ชีวะประวัติของคุณขึ้นมาล่ะก็ตอนนั้นแหละครับที่คุณจะต้องใช้เจ้าใบรับรองนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุดตอนขาออกจากอเมริกาเพื่อที่จะกลับไทยเจ้าหน้าที่ชะงักเมื่อเห็น passport ของผม มองเล่มในมือสลับกับมองหน้าอยู่ 3-4รอบได้ ก่อนผมจะยิ้มเพื่อสานสัมพันธไมตรีอีกครั้งเป็นอันผ่าน โดยส่วนตัวผมมองว่าต่างประเทศนั้นค่อนข้างเปิดใจและมีมารยาทในเรื่องส่วนตัวพวกนี้นะครับ หรือกรณีใครเจอปัญหาก็ไม่ต้องไปโมโหบึ้งตึงใส่เจ้าหน้าที่นะครับ ควักออกมาครับเอกสารที่ติดตัวมาพร้อมกับการชี้แจงอย่างอ่อนโยน : )
ส่วนการผ่านเซ็นเซอร์ตรวจวัตถุต้องห้ามก็ทำตัวปกติเลยครับในเมื่อรูปลักษณ์และจิตใจคุณคือผู้ชาย เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นตัวก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่จะมาลูบๆคลำๆตัวคุณเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าตกใจหรือทำทีท่าเขอะเขินไปครับ ปล่อยเขาทำไปตามหน้าที่
สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะบอกว่า “เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ขอให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพครับ
Comments are closed